งานวิจัย MDRI ขับเคลื่อน “ลายดอกฮัก” อัตลักษณ์ผ้าทอสบเตี๊ยะ สู่การท่องเที่ยวและรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน
สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ วิจัยเพื่อพัฒนาลายผ้าทอที่สะท้อนอัตลักษณ์ชุมชน “ลายดอกฮัก” เรื่องราวและเรื่องเล่าความรักหลายมิติของชุมชนสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงานเชิงวัฒนธรรม พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนและสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2569 ดร.วิชุลดา มาตันบุญ และทีมงาน จัดกระบวนการวิจัยที่ให้ความสำคัญกับ “การมีส่วนร่วม” ของชุมชน โดยได้จัดเวทีประชามติในการจัดทำลายผ้าที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนของกลุ่มวิสาหกิจฝ้ายเชิงดอย ณ ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมหลายภาคส่วน อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน แกนนำชุมชน ปราชญ์ชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอจอมทอง สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอจอมทอง กองการศึกษา พัฒนาชุมชนและสำนักปลัดเทศบาลตำบลสบเตี๊ยะ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ใช้ “ลายดอกฮัก” เป็นลายผ้าทอประจำถิ่น เนื่องจากในชุมชนมีต้นรักหรือที่ชุมชนเรียกว่าต้นฮักจำนวนมากและหาได้ยากในพื้นที่อื่นๆ คำว่า “ฮัก” ในภาษาพื้นเมืองหมายถึง “รัก” ชุมชนจึงนำมาเป็นเรื่องราวความรักที่งดงามหลากหลายมิติ ได้แก่
1. ความรักธรรมชาติ ดอกฮักเป็นดอกของต้นไม้ที่เติบโตบนผืนป่าชุมชนคือดอยโมคคัลลาน สื่อถึงความผูกพันระหว่างชุมชนกับธรรมชาติอันเป็นรากเหง้าของวิถีชีวิตคนในชุมชน และได้มีการอนุรักษ์มาจนถึงทุกวันนี้
2. ความรักตัวเองของผู้สวมใส่ผ้าทอ ลายดอกฮักจะถูกถ่ายทอดผ่านเส้นด้ายที่ย้อมจากสีธรรมชาติจากหินบนดอยโมคคัลลาน สีธรรมชาติไม่เพียงให้ความงามที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยัง ปลอดภัย อ่อนโยนต่อผิว และช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกดีต่อร่างกายของตนเอง เป็นการสื่อสารว่า “การเลือกสิ่งดี ๆ ให้ตัวเราเอง คือการฮักตัวเองเช่นกัน”
3. ความรักของคนในชุมชน ที่มาของลายผ้าทอคือ “ลายดอกฮัก” เกิดจากการร่วมคิด ร่วมลงมติ และร่วมสร้างสรรค์ของคนทุกกลุ่มในชุมชน ทำให้ผืนผ้าแต่ละผืนเป็นตัวแทนความสามัคคีและสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของคนในชุมชน
4. ความรักในความเป็นเจ้าของอัตลักษณ์ ลายดอกฮักทำให้คนในชุมชนรู้สึกภูมิใจในความเป็นท้องถิ่นของตนเอง เป็นการ “ฮักรากเหง้า” และสามารถนำสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนมาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมร่วมสมัยได้
5. ความรักตัวเองของต้นฮัก ปราชญ์ชุมชนได้สะท้อนถึงลักษณะพิเศษของต้นฮักว่า หากสัมผัสใกล้ๆ จะทำให้เกิดอาการคันหรือผื่นแดง เปรียบเหมือนต้นฮักเขามีความรักตัวเอง ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ และยังเชื่อมโยงกับความเชื่อในชุมชนที่หากใครต้องการเข้าใกล้หรือต้องการไม้มาทำฟืนจะต้องนำผงถ่านไปขออนุญาตที่ใต้ต้นฮักก่อนจะทำให้ไม่เป็นผื่นคัน
งานวิจัยดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ “นวัตกรรมพลาสมาสำหรับเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติและรายได้ชุมชน” โดยมี ดร.อนุชา รักสันติ เป็นหัวหน้าโครงการ และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ประจำปีพ.ศ. 2568
#MDRI #CMU #สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ #ลายดอกฮัก #ผ้าทอสบเตี๊ยะ #จอมทอง #เชียงใหม่ #งานวิจัยเพื่อชุมชน #วัฒนธรรมล้านนา
วันที่เผยแพร่ 08 ธันวาคม 2568